|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
32,0007,001,[ แก้อรรถ ]
|
|
32,0007,002,บรรดาบทเหล่านั้น ในบทว่า <B> ยามํ </B> นี้ พระศาสดาทรงแสดง
|
|
32,0007,003,ทำวัยทั้ง ๓ วัยใดวัยหนึ่งให้ชื่อว่า ยาม เพราะความที่พระองค์ทรง
|
|
32,0007,004,เป็นใหญ่ในธรรม และเพราะความที่พระองค์ทรงฉลาดในเทศนาวิธี.
|
|
32,0007,005,เพราะเหตุนั้น ในพระคาถานี้ บัณฑิตพึงทราบเนื้อความอย่างนี้ว่า
|
|
32,0007,006,""" ถ้าบุคคลทราบตนว่า เป็นที่รัก, พึงรักษาตนนั้น ให้เป็นอันรักษาดี"
|
|
32,0007,007,"แล้ว; คือพึงรักษาตนนั้น โดยประการที่ตนเป็นอันรักษาดีแล้ว. """
|
|
32,0007,008,บรรดาชนผู้รักษาตนเหล่านั้น ถ้าผู้เป็นคฤหัสถ์คิดว่า ' จักรักษา
|
|
32,0007,009,"ตน, ' ดังนี้แล้ว เข้าไปสู่ห้องที่เขาปิดไว้ให้เรียบร้อย เป็นผู้มีอารักขา"
|
|
32,0007,010,"สมบูรณ์ อยู่บนพื้นปราสาทชั้นบนก็ดี, ผู้เป็นบรรพชิต อยู่ในถ้ำอัน"
|
|
32,0007,011,ปิดเรียบร้อย มีประตูและหน้าต่างอันปิดแล้วก็ดี ยังไม่ชื่อว่า รักษา
|
|
32,0007,012,ตนเลย. แต่ผู้เป็นคฤหัสถ์ ทำบุญทั้งหลายมีทานศีลเป็นต้นตามกำลัง
|
|
32,0007,013,"อยู่, หรือผู้เป็นบรรพชิต ถึงความขวนขวายในวัตร ปฏิวัตร ปริยัติ"
|
|
32,0007,014,และการทำไว้ในใจอยู่ ชื่อว่าย่อมรักษาตน.
|
|
32,0007,015,บุรุษผู้เป็นบัณฑิต เมื่อไม่อาจ ( ทำ ) อย่างนั้นได้ใน ๓ วัย
|
|
32,0007,016,( ต้อง ) ประคับประคองตนไว้ แม้ในวัยใดวัยหนึ่งก็ได้เหมือนกัน. ก็
|
|
32,0007,017,ถ้าผู้เป็นคฤหัสถ์ ไม่อาจทำกุศลได้ในปฐมวัย เพราะความเป็นผู้หมกมุ่น
|
|
32,0007,018,"อยู่ในการเล่นไซร้, ในมัชฌิมวัย พึงเป็นผู้ไม่ประมาทบำเพ็ญกุศล."
|
|
32,0007,019,"ถ้าในมัชฌิมวัย ยังต้องเลี้ยงบุตรและภรรยา ไม่อาจบำเพ็ญกุศลได้ไซร้,"
|
|
32,0007,020,ในปัจฉิมวัย พึงบำเพ็ญกุศลให้ได้. ด้วยอาการแม้อย่างนี้ ตนต้องเป็น
|
|
32,0007,021,อันเขาประคับประคองแล้วทีเดียว. แต่เมื่อเขาไม่ทำอย่างนั้น ตน
|
|
|