Book,Page,LineNumber,Text 32,0016,001,พระคาถานี้ว่า :- 32,0016,002,""" พึงบุคคลพร่ำสอนผู้อื่นอยู่ฉันใด, พึงทำตน" 32,0016,003,"ฉันนั้น, บุคคลผู้มีตนฝึกดีแล้วหนอ ( จึง ) ควรฝึก " 32,0016,004,"( ผู้อื่น ), เพราะว่าได้ยินว่า ตนฝึกฝนได้โดยยาก. """ 32,0016,005,[ แก้อรรถ ] 32,0016,006,พึงทราบความแห่งพระคาถานั้นว่า :- 32,0016,007,""" ภิกษุกล่าวแล้วว่า ' พึงจงกรมในปฐมยามเป็นต้น ' ชื่อว่าย่อม" 32,0016,008,กล่าวสอนผู้อื่นฉันใด. ตนเองก็ฉันนั้น อธิษฐานกิจมีจงกรมเป็นต้น 32,0016,009,ชื่อว่าพึงกระทำตนเหมือนอย่างสอนผู้อื่น. เมื่อเป็นเช่นนี้ ภิกษุนั้น 32,0016,010,"เป็นผู้มีตนฝึกดีแล้วหนอ ควรฝึก ( บุคคลอื่น ) """ 32,0016,011,บาทพระคาถาว่า สุทนฺโต วต ทเมถ ความว่า ภิกษุย่อมพร่ำ 32,0016,012,สอนผู้อื่น ด้วยคุณอันใด. เป็นผู้ฝึกฝนดีแล้วด้วยตน ด้วยคุณอันนั้น 32,0016,013,ควรฝึก ( ผู้อื่น ). 32,0016,014,บาทพระคาถาว่า อตฺตา หิ กิร ทุทฺทโม ความว่า เพราะว่า 32,0016,015,ชื่อว่าตนนี้ เป็นสภาพอันบุคคลฝึกฝนได้ยาก. เพราะเหตุนั้น ตนนั้น 32,0016,016,"ย่อมเป็นสภาพอันบุคคลฝึกฝนดีแล้ว ด้วยประการใด, ควรฝึกตนด้วย" 32,0016,017,ประการนั้น. 32,0016,018,ในกาลจบเทศนา ภิกษุแม้ประมาณ ๕๐๐ รูปนั้น บรรลุพระ- 32,0016,019,อรหัตผลแล้ว ดังนี้แล. 32,0016,020,เรื่องพระปธานิกติสสเถระ จบ. 32,0016,021, 32,0016,022,๑. ใช้เป็นบทตั้งอีกครั้งหนึ่ง.